ท่ามกลางท้องถนนแคบๆ ของลอนดอน รถตู้ส่งสินค้า รถบรรทุก รถแท็กซี่สีดำและรถโดยสารสองชั้นสีแดงอันเป็นเอกลักษณ์ของเมืองต่างเบียดเสียดกันบนถนนในเช้าแต่ละวัน ตลอดทางเดินเท้ารายล้อมไปด้วยคนเดินถนนและคนใช้จักรยานที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ด้วยปริมาณผู้คนและยานพาหนะมากมายที่แย่งกันใช้พื้นที่อันจำกัดของถนน ความเสี่ยงในการเกิดการชนจึงมีสูง การใช้เส้นทางร่วมกันของรถบรรทุก ผู้ใช้จักรยานและคนเดินถนนนั้นสร้างความเสี่ยงมากเป็นพิเศษ
ตลอดระยะเวลาสามปีที่ผ่านมา รถบรรทุกขนาดใหญ่คือสาเหตุของการเสียชีวิตของคนเดินถนน 20% และการเสียชีวิตของผู้ใช้จักรยานกว่า 70% ในลอนดอน ทั้งๆ ที่ระยะทางการใช้เส้นทางนั้นคิดเป็นเพียง 4% ของระยะทางการวิ่งรถทั้งหมดภายในเมืองก็ตาม ข้อมูลจากสถิติของกรมการขนส่งของลอนดอน
แม้ตัวเลขดังกล่าวจะสูง แต่สถิติเหล่านี้ก็ไม่ได้มีเฉพาะในกรุงลอนดอนเพียงเมืองเดียว ผลการวิจัยโดยทีมวิจัยอุบัติเหตุของวอลโว่ ทรัคส์ในปี 2014 แสดงให้เห็นว่าราว 32% หรือ 1,230 เหตุการณ์จากผู้ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตที่เกิดจากรถบรรทุกขนาดใหญ่ในสหภาพยุโรปคือผู้ใช้ท้องถนนที่เป็นกลุ่มเสี่ยง แม้ว่าโดยรวมระดับความปลอดภัยบนท้องถนนจะเพิ่มขึ้นแล้ว แต่ก็ชัดเจนว่าอัตราการเกิดอุบัติเหตุสำหรับผู้ใช้ถนนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงก็ลดลงได้ยาก
เพื่อทำให้ถนนมีความปลอดภัยมากขึ้น กรมการขนส่งของลอนดอนจึงเสนอความสำคัญกับการลดอันตรายบนท้องถนนในการตัดสินใจหลัก ตลอดจนร่วมมือกับผู้ใช้ถนนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงและผู้ผลิตรถยนต์หลายราย รวมถึงวอลโว่ ทรัคส์เพื่อค้นหาทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วย
เราสามารถทำอะไรได้บ้าง หนึ่งในแผนการหลักที่กำลังดำเนินการ คือการพัฒนาเคร่งครัดในด้านมาตรฐานการมองเห็น (Direct Vision Standard หรือ DVS) สำหรับยานพาหนะขนส่งสินค้าหนัก
“มีการพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าการมองเห็นทางตรงจากห้องโดยสารนั้นส่งผลอย่างมากต่อการลดอันตรายต่อคนเดินถนนและนักปั่นจักรยาน เพราะจุดบอดการมองเห็นคือปัจจัยหลักที่ก่อให้เกิดการชน” วิล นอร์แมน อธิบดีฝ่ายการเดินและการใช้จักรยาน กรมการขนส่งของลอนดอน กล่าว
ภายใต้ร่างข้อเสนอนี้ ตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นไป รถบรรทุกสินค้าที่น้ำหนักเกิน 12 ตันจะต้องได้รับใบอนุญาติด้านความปลอดภัยเพื่อปฏิบัติงานในตัวเมือง
อย่างไรก็ดี นายวิล นอร์แมนอธิบายว่าแผนการนี้ยังอยู่ระหว่างการหารือ แต่ตามที่ได้มีการวางแผน ใบอนุญาตให้ปฏิบัติงานในลอนดอนจะออกให้กับยานพาหนะขนส่งสินค้าหนักที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์ขั้นต่ำของมาตรฐานการมองเห็น หรือสามารถแสดงถึงมาตรการเทียบเท่าเพื่อลดความเสี่ยงต่อผู้ใช้ถนนที่เป็นกลุ่มเสี่ยง มีการตั้งเป้าไว้เพื่อให้มีการระบุลักษณะเฉพาะต่างๆ เช่น เซ็นเซอร์และระบบการแสดงภาพแจ้งเตือนไว้ภายในร่างข้อเสนอฉบับสุดท้าย
“เราพยายามที่จะเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนนในเมืองของเรา แต่เราจำเป็นต้องให้บริษัทขนส่งเพิ่มความปลอดภัยให้ฟลีทรถของพวกเขาด้วยเช่นกัน” วิล นอร์แมน กล่าว
วอลโว่ ทรัคส์เองก็ติดตามการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวภายในลอนดอนอย่างใกล้ชิด
“เราชื่นชมความพยายามของลอนดอนในการรับประกันความปลอดภัยทางจราจรภายในตัวเมือง รวมถึงการปกป้องผู้ใช้ถนนที่มีความเสี่ยงโดยอาศัยความร่วมมือจากหลายฝ่าย” เคลย์ส เอเวอดาล ผู้จัดการด้านความปลอดภัย ฝ่ายการวางแผนผลิตภัณฑ์ของวอลโว่ ทรัคส์กล่าว
เราพยายามที่จะเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนนในเมืองของเรา แต่เราจำเป็นต้องให้บริษัทขนส่งเพิ่มความปลอดภัยให้ฟลีทรถของพวกเขา
เขาประเมินว่ารถบรรทุกที่มีการออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อให้ทัศนวิสัยดีเยี่ยมจะกลายเป็นสิ่งที่พบเห็นได้ทั่วไปตามท้องถนนของลอนดอน รวมถึงเมืองอื่นๆ ที่กำลังมองหาหนทางในการพัฒนาความปลอดภัยในเมือง การออกแบบเหล่านี้รวมถึงอุปกรณ์เฉพาะ อาทิ กระจกเสริมและกล้องต่างๆ ระยะความสูงแชสซีแบบต่ำ และประเภทยานพาหนะเฉพาะกิจ เช่น Volvo FE Low-Entry Cab ซึ่งมีแชสซีที่มีระยะความสูงต่ำเป็นพิเศษและมีตัวเลือกกระจกขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของประตูห้องโดยสาร กระจกเสริมนี้ช่วยให้คนขับสามารถมองเห็นด้านข้างของตัวรถได้โดยตรง
“นี่คือรถที่ดีที่สุดเพื่อการมอบการมองเห็นที่ชัดเจน ในฐานะคนขับ คุณจะสามารถมองเห็นคนปั่นจักรยานและคนเดินถนนได้เกือบอยู่ในระดับสายตา” เคลย์ส เอเวอดาล กล่าว
นอกเหนือจากการลงมือในด้านมาตรการเคร่งครัดในด้านมาตรฐานการมองเห็น (Direct Vision Standard - (DVS) แล้ว กรมการขนส่งของลอนดอนยังได้นำเอามาตรการอื่นๆ มาใช้เพื่อเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนนด้วย ไม่ว่าจะเป็นการปรับเกณฑ์จำกัดความเร็ว การรับมือกับความเร็วโดยใช้การออกแบบถนนใหม่ การกระตุ้นการบังคับใช้กฎหมาย และการวางผังแยกอันตรายภายในตัวเมืองใหม่
“ปัจจัยต่างๆ มากมาย ตั้งแต่การออกแบบรถยนต์ไปจนถึงการวางแผนเส้นทาง การสร้างการตระหนักรู้ทางจราจรและการออกแบบถนน สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่มีบทบาทในการทำให้ปฏิสัมพันธ์ระหว่างรถบรรทุกและคนใช้ถนนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงมีความปลอดภัยมากกว่าเดิม” เคลย์ส เอเวอดาล กล่าว
วอลโว่ ทรัคส์เองก็ดำเนินแนวทางที่หลากหลายในด้านความปลอดภัยเช่นกัน การดำเนินการเหล่านี้ครอบคลุมขอบเขตต่างๆ เช่น การวิจัยด้านความปลอดภัย การพัฒนาเทคโนโลยีด้านความปลอดภัย อาทิ ระบบควบคุมช่องทางเดินรถและระบบเบรกฉุกเฉินที่ล้ำหน้า รวมไปถึงการออกแบบรถยนต์ที่มีความปลอดภัยมากขึ้นและการฝึกอบรมพนักงานขับรถ นอกจากนี้ โครงการส่งเสริมการตระหนักรู้ด้านจราจร เช่น โครงการ ‘Stop Look Wave’ และ ‘See and be seen’ ก็เป็นส่วนสำคัญในการดำเนินงานนี้ด้วย
ความปลอดภัยในตัวเมืองได้กลายเป็นเป้าหมายทางการเมืองที่สำคัญในหลายๆ ที่ เราจึงอาจได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่รอบโลก
ภายในปี 2041 กรมการขนส่งของลอนดอนวางเป้าหมายในการลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงและการเสียชีวิตบนท้องถนนในเมืองให้เป็นศูนย์ ตลอดจนตั้งเป้าให้ 80% ของการเดินทางของชาวลอนดอนเปลี่ยนมาเป็นการเดิน การใช้จักรยานหรือใช้ระบบขนส่งมวลชนแทน
“ในไม่ช้า เราอาจได้เห็นการเปลี่ยนแปลงเพิ่มมากขึ้นในเมืองต่างๆ รอบโลก” เคลย์ส เอเวอดาล กล่าว “วอลโว่ ทรัคส์เองก็มีเป้าหมายเช่นเดียวกับลอนดอนในการทำให้อุบัติเหตุเป็นศูนย์ ปัญหาความปลอดภัยบนท้องถนนในเมืองนั้นกำลังล้าหลังพัฒนาการด้านอื่นๆ แต่ตอนนี้ ความปลอดภัยในตัวเมืองได้กลายเป็นเป้าหมายทางการเมืองที่สำคัญในหลายๆ ที่ เราจึงอาจได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่รอบโลก”
ลอนดอนกำลังเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้
ตั้งแต่ปี 1969 เป็นต้นมา ทีมวิจัยอุบัติเหตุของวอลโว่ ทรัคส์ได้ทำการศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับรถบรรทุกกว่า 1,700 กรณี การศึกษาดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความเข้าใจด้านความปลอดภัยจราจร รวมถึงมอบคำแนะนำเพื่อวางลำดับความสำคัญการพัฒนามาตรการด้านความปลอดภัยบนท้องถนน
ในปี 2014 จำนวนการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับยานพาหนะขนส่งสินค้าหนักในยุโรปคือ 3,863 กรณี
13%
การเสียชีวิต 499 กรณี
อุบัติเหตุที่ก่อให้เกิดการเสียชีวิตกับผู้ขับขี่ยานพาหนะขนส่งสินค้าหนัก
49%
การเสียชีวิต 1,898 กรณี
อุบัติเหตุที่ก่อให้เกิดการเสียชีวิตกับผู้ขับขี่รถยนต์
32%
การเสียชีวิต 1,230 กรณี
อุบัติเหตุที่ก่อให้เกิดการเสียชีวิตกับผู้ใช้ถนนที่เสี่ยงต่ออุบัติเหตุ (VRU)
6%
การเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับยานพาหนะขนส่งสินค้าหนักอื่นๆ 236 กรณี
จากการเสียชีวิตของผู้ใช้ถนนกลุ่มเสี่ยงทั้งหมด 1,230 กรณี (ในยุโรปปี 2014) 53% เกี่ยวข้องกับคนเดินถนน,
22% เกี่ยวข้องกับคนใช้จักรยานและ 25% เกี่ยวข้องกับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์หรือจักรยานยนต์ขนาดเล็ก
อุบัติเหตุที่ก่อให้เกิดการเสียชีวิตหรือการบาดเจ็บรุนแรงกับผู้ใช้ถนนที่เสี่ยงต่ออุบัติเหตุในยุโรปในปี 2014
20%
เกี่ยวข้องกับการที่รถยานพาหนะขนส่งสินค้าหนักหักเลี้ยว
30%
อุบัติเหตุการข้ามถนน
สิ่งสำคัญ 3 อย่างที่ลูกค้ารถบรรทุกควรพิจารณาเพื่อปรับปรุงความปลอดภัยในเมืองและการมองเห็น จากมุมมองของ เคลย์ส เอเวอดาล ผู้จัดการด้านความปลอดภัย ฝ่ายการวางแผนผลิตภัณฑ์ของวอลโว่ ทรัคส์
วางแผนเส้นทาง
“วางแผนสำหรับจุดปลอดภัยที่ใช้เข้าและออกจากพื้นที่พลุกพล่าน รวมถึงเส้นทางการเดินทางผ่านเมืองเพื่อเลี่ยงเส้นทางที่พลุกพล่านเกินไป ถนนแคบๆ หรือเพื่อเลี่ยงการปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้ถนนที่มีความเสี่ยง การวางแผนสามารถสร้างความแตกต่างได้”
เลือกรถให้เหมาะสมกับงาน
“ลูกค้าจำนวนมากต้องการให้รถบรรทุกยืดหยุ่นได้มากที่สุด ซึ่งอาจหมายถึงพวกเขาจะเลือกแชสซีแบบสูง แม้ว่าพวกเขาจะใช้งานในเมืองเป็นหลักก็ตาม แต่หากคุณเลือกใช้แชสซีที่ต่ำกว่า คนขับก็จะอยู่ในตำแหน่งที่ใกล้พื้นมากขึ้นซึ่งช่วยมอบทัศนวิสัยที่ดีกว่าในการสังเกตสิ่งรอบตัวรถ”
ใช้กล้องและหน้าต่างประตูแบบต่ำเพื่อเพิ่มการมองเห็น
“คุณสามารถมองเห็นด้านหน้าและด้านข้างของตัวรถทั้งหมดได้โดยใช้เพียงหน้าต่างและกระจกมอง อย่างไรก็ดี ตัวเลือกกล้องติดมุมและหน้าต่างแบบต่ำสำหรับประตูฝั่งผู้โดยสารก็ช่วยมอบทัศนวิสัยที่เพิ่มขึ้นให้กับคนขับ ซึ่งสามารถช่วยป้องกันการชนในระหว่างที่รถกำลังหักเลี้ยวได้”