Trucks

เพื่อการเลือกโซลูชันประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้ง่ายกว่าเดิม

กฎหมายใหม่ของสหภาพยุโรปเกี่ยวกับการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงและการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) จะมีผลบังคับใช้ในปี 2019 ระเบียบดังกล่าวจะช่วยยกระดับความโปร่งใสและความรับผิดชอบ รวมถึงช่วยผลักดันโซลูชันด้านระบบขนส่งที่ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงมากยิ่งขึ้นในท้ายที่สุด
ลาร์ มาร์เทนซัน
ลาร์ มาร์เทนซัน ผู้อำนวยการฝ่ายสิ่งแวดล้อมและนวัตกรรมประจำวอลโว่ ทรัคส์ เชื่อว่ากฎหมายใหม่ดังกล่าวของสหภาพยุโรปนั้นมีเนื้อหาสอดคล้องกับความใส่ใจในสภาพอากาศของวอลโว่ ทรัคส์

อะไรคือเนื้อหาของกฎหมายใหม่ของสหภาพยุโรป
“ตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นไป รถบรรทุกสำหรับงานหนักที่จำหน่ายในยุโรปจะต้องแจ้งข้อมูลการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงและการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) โดยข้อมูลเหล่านี้จะพิจารณาจากการจำลองโดยคำนวณปริมาณการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงและการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งจะอ้างอิงจากการวัดผลจากส่วนประกอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด”

เหตุใดจึงจำเป็นต้องมีการออกกฎหมายฉบับนี้
“รถบรรทุกขนาดใหญ่ถูกชี้แจงว่าเป็นที่มาการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ราว 5% ในยุโรป ตัวเลขดังกล่าวจำเป็นต้องลดลง หากสหภาพยุโรปหวังที่จะบรรลุเป้าหมายด้านสภาพอากาศในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงให้ได้ 30% ภายในปี 2030 (เทียบกับระดับเมื่อปี 2005)”

เหตุใดจึงจำเป็นต้องใช้เครื่องมือสำหรับการคำนวณแทนการใช้มาตรฐานอุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น มาตรฐานไอเสีย ยูโร 6
“โดยปกติแล้วรถบรรทุกขนาดใหญ่มักผลิตขึ้นโดยเฉพาะเพื่อตอบสนองความต้องการใช้งานของลูกค้า ซึ่งทำให้รถเหล่านี้มีการปรับแต่งที่ต่างกันหลากหลายแบบ ปัจจัยเหล่านี้ทั้งหมดส่งผลต่อการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงและทำให้เป็นไปไม่ได้ที่จะวัดข้อมูลรถแต่ละคัน อย่างไรก็ดี การใช้เครื่องมือแบบจำลองและอุปกรณ์วัดช่วยให้เราสามารถคำนวณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) และการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเฉพาะเจาะจงสำหรับรถบรรทุกแต่ละคันได้ เมื่อข้อมูลทั้งหมดมีการคำนวณและประกาศโดยใช้กระบวนการที่ผ่านการรับรอง จึงช่วยรับประกันความโปร่งใสได้”

โดยรวมแล้ว ประกาศข้อมูลจะช่วยให้เจ้าของรถบรรทุกเลือกโซลูชันการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับธุรกิจของตนเองได้ง่ายกว่าเดิม

กฎหมายดังกล่าวจะมีผลกระทบอย่างไรกับเจ้าของรถบรรทุก
“ข้อมูลที่มีการประกาศจะช่วยเพิ่มความชัดเจนมากยิ่งขึ้น และช่วยให้สามารถเปรียบเทียบรถหลากหลายรุ่นจากผู้ผลิตแต่ละรายได้ง่ายกว่าเดิม ยิ่งไปกว่านั้น ข้อมูลดังกล่าวจะช่วยให้บริษัทขนส่งเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกได้ชัดเจนยิ่งขึ้นว่าอะไรคือปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงและการปล่อยก๊าซคาร์บอน เช่น การออกแบบเชิงอากาศพลศาสตร์และความต้านทานต่อการหมุนของล้อ การให้ความสำคัญต่อสภาพอากาศจะเพิ่มขึ้น โดยรวมแล้ว ประกาศข้อมูลจะช่วยให้เจ้าของรถบรรทุกเลือกโซลูชันการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับธุรกิจของตนเองได้ง่ายกว่าเดิม”

ข้อมูลประกาศเหล่านี้มีความน่าเชื่อถือมากแค่ไหน
“ข้อมูลการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) และการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงจะอ้างอิงจากการจำลองแบบมาตรฐานด้วยคอมพิวเตอร์และใช้เงื่อนไขการขับขี่โดยเฉลี่ยของยุโรปเป็นมาตรฐาน อย่างไรก็ตาม การคำนวณดังกล่าวไม่ได้นำเอาทักษะด้านการขับขี่ของคนขับ สภาพการขับขี่ที่ไม่เหมือนกัน หรือผลกระทบจากนวัตกรรมและเทคโนโลยีต่างๆ เช่น โซลูชันด้านการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงเฉพาะของผู้ผลิตแต่ละรายมาพิจารณาด้วย ดังนั้น จึงควรใช้ข้อมูลดังกล่าวสำหรับอ้างอิงเป็นแนวทางเมื่อเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างรถแต่ละรุ่นเท่านั้น และวอลโว่ ทรัคส์จะยังคงให้คำแนะนำลูกค้าในการเลือกโซลูชันที่เหมาะสมมากที่สุดเช่นเดิม               

วอลโว่ ทรัคส์ มีท่าที่อย่างไรกับการออกกฎหมายใหม่นี้
“เราพร้อมยินดีต้อนรับกฎหมายใหม่นี้ เพราะท้ายที่สุดแล้ว กฎหมายดังกล่าวสอดคล้องกับการมีส่วนร่วมในด้านสิ่งแวดล้อมและการใส่ใจในสภาพอากาศของเรา เราเชื่อมั่นว่าการมอบข้อมูลการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงซึ่งอ้างอิงจากวิธีการตรวจวัดที่เท่าเทียมกันจะมอบประโยชน์ให้กับผู้ซื้อรถบรรทุก รวมถึงช่วยให้ลูกค้าของเราเลือกใช้รถยนต์ที่ประหยัดเชื้อเพลิงและปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) น้อยลงได้ง่ายกว่าเดิม”

ข้อมูล

กลยุทธ์ที่สหภาพยุโรปใช้สำหรับรับมือกับการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์แยกออกเป็นสามขั้นตอน

การออกประกาศ: ในขั้นแรกของแผนการจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2019 โดยบริษัทผู้ผลิตรถบรรทุกแต่ละรายจะต้องแจ้งข้อมูลการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) และการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับรถบรรทุกที่ผลิตขึ้นใหม่

การติดตามผลและรายงาน: ขั้นที่สองที่มีการนำเสนอไว้ คือการกำหนดให้ผู้ผลิตรถบรรทุกแจ้งข้อมูลที่ประกาศให้ทางสหภาพยุโรปทราบ เพื่อให้มีการเผยแพร่เป็นรายงานสาธารณะ หากผ่านการอนุมัติ ขั้นตอนนี้จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2020

การจำกัดค่า: ขั้นที่สามที่มีการคาดการณ์ไว้ คือการออกเกณฑ์จำกัดสำหรับการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) มีการคาดการณ์ว่าร่างกฎหมายขั้นสุดท้ายที่ครอบคลุมเกณฑ์ดังกล่าวจะแล้วเสร็จในเดือนกันยายน 2019 

Related News

Latest Press Release

Latest Press Release