Transnogon นั้นตั้งอยู่ในพื้นที่ย่านอุตสหากรรมอันอึมครึมถัดออกไปจากบาเลนเซียทางชายฝั่งตะวันออกของสเปน ผู้มาเยือนจะได้รับการทักทายด้วยภาพของป้ายที่ดูเรียบๆ บนแนวรั้ว และกลุ่มรถบรรทุกที่จอดอยู่ประปรายกลางลานจอดรถยางมะตอยในช่วงเช้า ตัวอาคารสำนักงานเป็นอาคารสองสามหลังซึ่งดูคล้ายกับค่ายทหาร มีอาคารสำหรับล้างทำความสะอาดรถบรรทุกและศูนย์ซ่อมบำรุงเล็กอยู่ใกล้ๆ กัน
อันที่จริง ไม่มีสิ่งบ่งชี้ใดเลยที่บอกได้ว่า Transnugon คือบริษัทด้านการขนส่งที่เติบโตอย่างรวดเร็วและมีเป้าหมายอันทะเยอทะยาน ภายในระยะเวลาสั้นๆ เพียงสองปืครึ่ง บริษัทได้พลิกโฉมจากการเป็นบริษัทแบบครอบครัวขนาดเล็กที่มีลูกค้าเพียงสองสามรายและรถบรรทุกราว 50 คันมาเป็นบริษัทที่มีฟลีทรถบรรทุกอันทันสมัยกว่า 250 คัน และปริมาณของรถบรรทุกภายในฟลีทก็เพิ่มขึ้นทุกวัน
“เหตุผลที่เราพัฒนามาได้จนถึงระดับนี้ คือเรากล้าที่จะเสี่ยงและมีความยืดหยุ่น เราไม่เคยปฏิเสธลูกค้า หากลูกค้าต้องการรถบรรทุกคันใหม่ เราก็จะซื้อรถบรรทุกพวกนั้นโดยไม่คำนึงถึงอนาคตให้มากนัก ด้วยความสามารถด้านน้ำหนักบรรทุกที่มากมายของเรา เราจึงพร้อมตอบรับคำขอลูกค้าเสมอ ถ้าลูกค้าต้องการให้เราจัดส่งสินค้า 25 คันรถไปยังมาดริดในวันรุ่งขึ้น เราก็จะทำตามที่ขอ” Pablo Bordils Montero กรรมการผู้จัดการและหนึ่งในสามเจ้าของบริษัทกล่าว
ลูกค้าส่วนมากของพวกเขาคือผู้ให้บริการในภาคส่วนอาหารและ Transnugon ก็รับหน้าที่จัดส่งและกระจายอาหารแช่แข็ง อาหารสด และอาหารแห้งไปยังร้านค้าและซูเปอร์มาร์เก็ตต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในภูมิภาครอบบาเลนเซีย แต่บางส่วนก็อยู่ในพื้นที่อื่นของประเทศสเปน
“เราปฏิบัติงานบนเส้นทางเดิมเกือบจะทุกวัน และเราให้บริการลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันตลอดปี เนื่องจากเราทำงานกับสินค้าประเภทอาหาร การดูแลรถบรรทุกให้อยู่ในสภาพที่ดีและการไปถึงเป้าหมายได้ตรงเวลาจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก” Pablo Bordils Montero อธิบาย
ก่อนที่ Pablo จะเข้ามาทำงานที่ Transnugon เมื่อสามปีที่แล้ว เขาเคยเป็นหนึ่งในลูกค้าของบริษัทมาก่อน ครอบครัวภรรยาของเขาประกอบธุรกิจจัดส่งน้ำแร่ให้กับหนึ่งในบริษัทเครือข่ายร้านอาหารรายใหญ่ที่สุดของสเปน และ Transnugon ก็เป็นผู้ให้บริการด้านการขนส่งกับพวกเขา เมื่อ Transnugon ประสบกับปัญหาในการขยายตัวให้ได้ตามเป้าหมายที่ต้องการ เจ้าของบริษัทจึงหันมาปรึกษา Pablo และเสนอให้เขาเข้ามารับช่วงกิจการต่อ “ผมมีความสัมพันธ์ที่ดีกับบริษัท Transnugon แต่ไม่มีความเข้าใจในด้านโลจิสติกส์มากนัก นั่นทำให้ผมตัดสินใจซื้อส่วนแบ่งหนึ่งในสามของบริษัทและเข้าร่วมในฐานะผู้ถือหุ้น”
ทุกวันนี้ Pablo Bordils Montero เป็นเจ้าของบริษัทร่วมกับสองพี่น้อง Jorge Núñez González และ José Maria Núñez González ซึ่งสืบต่อธุรกิจจากพ่อของเขา José Maria Núñez Romero ผู้ก่อตั้งบริษัทขึ้นในช่วงยุค 1990 “แม้เราจะไม่ได้มาจากครอบครัวเดียวกัน แต่ก็รู้สึกเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน เราทุกคนรู้ดีว่าต้องทำอะไร เราทำงานและได้รับผลตอบแทนเท่ากันทุกคน การทำงานร่วมกันได้ลงตัวเป็นอย่างดี คือหนึ่งในสิ่งที่นำเรามายังจุดที่เราอยู่ ณ ปัจจุบัน”
ช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญเริ่มต้นขึ้นเมื่อ Pablo เข้ามาร่วมธุรกิจ ภายในระยะเวลาสั้นๆ เขาได้แทนที่รถบรรทุกเก่าทั้งหมดด้วยรถรุ่นใหม่ “รถบรรทุกที่ทันสมัยช่วยให้เรามอบบริการให้กับลูกค้าได้ดีกว่าเดิม รวมทั้งยังช่วยให้เรารับงานได้มากขึ้นตลอดจนสร้างโอกาสในการซื้อรถบรรทุกเสริม”
การทดลองสิ่งใหม่ๆ และการพัฒนาอย่างต่อเนื่องคือสิ่งผลักดันผม
นอกจากนี้ Transnugon ยังทดสอบรถบรรทุกเชื้อเพลิงก๊าซในช่วงเดียวกับที่รถบรรทุกในฟลีทเดิมถูกเปลี่ยนด้วย การทดสอบเป็นไปได้ด้วยดีและนำไปสู่การลงทุนที่สำคัญที่สุดครั้งหนึ่งของบริษัท นั่นคือการจัดซื้อรถบรรทุกเชื้อเพลิงก๊าซ 30 คัน รวมถึงสถานีเติมเชื้อเพลิงก๊าซของตนเอง
“การทดลองสิ่งใหม่ๆ และการพัฒนาอย่างต่อเนื่องคือสิ่งผลักดันผม ผมเองยังเป็นคนเบื่อง่ายด้วย ซึ่งทำให้ผมอยากวางแผนและก้าวต่อไปข้างหน้าเรื่อยๆ สถานีเติมเชื้อเพลิงก๊าซของเราก็เป็นตัวอย่างหนึ่ง ผมค้นเจอข้อมูลระหว่างเล่นอินเทอร์เน็ตในคืนหนึ่ง ทุกอย่างคือเรื่องของความสงสัยใคร่รู้” Pablo Bordils Montero กล่าว
เดิมทีการลงทุนในรถบรรทุกเชื้อเพลิงก๊าซนั้นมีสาเหตุจากด้านเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว ณ เวลานั้น ราคาเชื้อเพลิงดีเซลพุ่งสูงในขณะที่ก๊าซนั้นมีราคาถูกกว่ามาก การลงทุนในสถานีเติมเชื้อเพลิงของพวกเขาสร้างผลกำไรมากมาย และถึงแม้ราคาเชื้อเพลิงดีเซลจะลดลงมาแล้ว แต่เชื้อเพลิงก๊าซก็ยังถูกกว่าถึง 35 เปอร์เซ็นต์สำหรับ Transnugon การสั่งซื้อเชื้อเพลิงในปริมาณสูงช่วยให้บริษัทได้ราคาที่ดีกว่าการนำรถบรรทุกไปเติมเชื้อเพลิงที่อื่น ยิ่งไปกว่านั้นยังช่วยประหยัดเวลาได้มาก
ทุกวันนี้ Transnugon มีรถบรรทุกเชื้อเพลิงก๊าซ 58 คัน นับเป็นจำนวนกว่าหนึ่งในสี่ของรถบรรทุกทั้งหมดในฟลีท และถึงแม้ว่าการลงทุนในรถบรรทุกเชื้อเพลิงก๊าซนั้นจะมีสาเหตุจากด้านการเงิน แต่ Pablo ก็ตระหนักได้ถึงข้อดีอื่นๆ มากมายจากการนำเสนอบริการขนส่งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นสำหรับลูกค้า
“รถบรรทุกเชื้อเพลิงก๊าซได้รับการชื่นชมอย่างมากจากลูกค้าของเรา และพวกมันยังสร้างมูลค่าเสริมที่ลูกค้าสามารถนำไปใช้ประกอบการสื่อสารด้านการตลาดได้ด้วย ในอนาคต ปัญหามลพิษในตัวเมืองจะส่งผลให้มีการวางข้อกำหนดที่รัดกุมมากขึ้น และระบบขนส่งที่ใช้รถบรรทุกเชื้อเพลิงก๊าซจะกลายเป็นที่ต้องการมากกว่าเดิม” Pablo กล่าว
Volvo FH LNG คือรถบรรทุกเชื้อเพลิงก๊าซรุ่นแรกที่มอบประสิทธิภาพและสมรรถนะการขับขี่ทัดเทียมรถบรรทุกดีเซล
เป้าหมายในอนาคตของ Pablo คือการมีฟลีทรถบรรทุกซึ่งใช้เชื้อเพลิงก๊าซทั้งหมด หลังจากทดสอบรถบรรทุก Volvo FH LNG อยู่หลายสัปดาห์ วิสัยทัศน์ของเขาก็กลายเป็นสิ่งที่ทำให้เป็นจริงได้ “Volvo FH LNG คือรถบรรทุกเชื้อเพลิงก๊าซรุ่นแรกที่มอบประสิทธิภาพและสมรรถนะการขับขี่ทัดเทียมรถบรรทุกดีเซล พวกมันทำงานได้ดีเท่ากันสำหรับเส้นทางกลับไปยังมาดริดและการขนส่งระยะสั้นๆ”
ตอนนี้ Transnugon กำลังวางแผนจะขยายฟลีทรถบรรทุกของพวกเขาด้วยการเพิ่ม Volvo FH LNG อีกหลายคัน นอกจากรถบรรทุกดังกล่าวจะสามารถใช้งานได้กับการขนส่งทุกประเภทแล้ว ข้อดีสำคัญอีกอย่างคือการประหยัดเชื้อเพลิง ปริมาณผลกำไรสำหรับบริษัทด้านการขนส่งในประเทศสเปนนั้นต่ำมาก ดังนั้นสำหรับบริษัทของ Pablo แต่ละหน่วยเปอร์เซ็นต์จึงมีความสำคัญ
“อัตราการใช้เชื้อเพลิงของ Volvo FH LNG นั้นต่ำกว่ารถบรรทุกที่ใช้เชื้อเพลิงก๊าซรุ่นอื่นถึงเจ็ดหรือแปดเปอร์เซ็นต์ และหากเปรียบเทียบกับรถบรรทุกดีเซลรุ่นใกล้กัน ความแตกต่างนั้นมากถึง 15 เปอร์เซ็นต์ทีเดียว” เขากล่าว สำหรับ Transnugon การให้ความสนใจกับรถบรรทุกเชื้อเพลิงก๊าซนั้นทำให้พวกเขาต่างจากคู่แข่งรายอื่น และ Pablo ก็เชื่อว่าบริษัทจะเติบโตต่อไปได้
“เมื่อตอนที่เราเริ่มต้นธุรกิจ เราพูดว่าเราน่าจะมีรถบรรทุกสัก 100 คัน ตอนนี้เรามี 250 คันแล้ว ทุกครั้งที่ผมนึกถึงจุดที่เราอยู่ ณ ตอนนี้และความเป็นไปได้ทั้งหมดที่มี ผมมองไม่เห็นข้อจำกัดใดๆ เลย หากเราสามารถดึงดูดบุคลากรที่ดีและคู่ค้าใหม่ๆ ได้ ผมคิดว่าเราอาจเป็นบริษัทกระจายสินค้าที่ใหญ่ที่สุดของสเปนได้”
ก่อตั้งเมื่อ: 1998
การขนส่ง: ส่วนมากเป็นการขนส่งภายในภูมิภาคให้กับบริษัทด้านอาหารหลายราย
กรรมการผู้จัดการ: Pablo Bordils Montero
เจ้าของธุรกิจ: Pablo Bordils Montero, Jorge Núñez González และ José Maria Núñez González
ผลประกอบการประจำปี 2016: 12 ล้านยูโร
ผลประกอบการที่ตั้งเป้าไว้ของปี 2017: 22 ล้านยูโร
จำนวนพนักงาน: ประมาณ 288 คน
ฟลีทรถบรรทุก: ประมาณ 250 คัน โดย 34 คันเป็นรถของวอลโว่ ทรัคส์ และ 58 คันใช้เชื้อเพลิงก๊าซ
ระยะเวลาการเก็บไว้ใช้งาน (การใช้งานก่อนตัดจำหน่าย): สามถึงห้าปี