เครก ฟ็อกซ์ เจ้าของฟลีทรถชาวออสเตรเลีย ยกความสำเร็จในอุตสาหกรรมด้านการขนส่งของเขาให้กับสองปัจจัยสำคัญ: แค่การขนส่งน้ำหนักบรรทุก และความสามารถในการบรรทุกสินค้าได้หลากหลายประเภท
ย้อนกลับไปหกปีที่แล้ว เครก ฟ็อกซ์ไม่มีความรู้ด้านรถบรรทุกเลยสักนิด
“ผมเคยเป็นชาวประมงครับ แต่พอเริ่มมีการกำหนดโควต้า ธุรกิจการจับปลาก็เริ่มซบเซา ผมจึงต้องเริ่มหาอย่างอื่นทำแทน ก็เลยซื้อธุรกิจรถบรรทุกต่อจากพ่อของผมมา”
ณ เวลานั้นบริษัท Fox Transport ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่พอร์ต แฟรี่ในแคว้นวิคตอเรียทางตะวันตกเฉียงใต้ของออสเตรเลีย พวกเขามีเพียงรถบรรทุกสามคันและชุดต่อพ่วงเท่านั้น เครกมองเห็นโอกาสในการขยายฟลีทรถบรรทุกของเขา และได้ตัดสินใจเพิ่มรถบรรทุกในงานเกษตรกรรมแบบ B-double สองคัน รถ Tite-Liner และรถบรรทุกสารเคมีอีกคันหนึ่ง
“เรายังคงปฏิบัติงานจากที่พอร์ต แฟรี่” เครกกล่าว “แต่ตอนนี้เราให้บริการทั่วพื้นที่วิคตอเรียแล้ว เส้นทางปกติของรถบรรทุกในงานเกษตรกรรม B-Double อาจประกอบด้วยการขนส่งหินประดับสีดำจากโรงงานคัดกรองของเรามายังเมลเบิร์น จากนั้นก็แวะรับปุ๋ยและขนส่งต่อไปยังเมืองมิลดูรา ที่นั่นเราจะรับเมล็ดพืชหรือยิปซัม จากนั้นก็เดินทางกลับไปที่กิปส์แลนด์หรือสำนักงานใหญ่ของเรา สำหรับการเดินทางแบบนี้ คนขับรถของเราจะต้องใช้เวลาทั้งหมดราวสามวัน”
ด้วยความกังวลหากเขารับบรรทุกสินค้าเพียงประเภทเดียว เครกจึงตัดสินใจขนส่งสินค้าให้ได้หลากหลายมากที่สุด
“เมล็ดพืช ปูนขาว ทราย หิน ปุ๋ย สินค้าทั่วไป ไม่ว่าอะไรเราก็ขนส่งหมด” เครกกล่าว “นอกจากนี้เรายังมีรถบรรทุกสารเคมีด้วย เพื่อให้เราสามารถบรรทุกสินค้าประเภทของเหลวได้ หากธุรกิจกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเกิดซบเซา ธุรกิจอื่นๆ ก็ช่วยชดเชยได้ นอกจากนี้ความหลากหลายยังทำให้งานไม่น่าเบื่อเกินไปสำหรับคนขับรถด้วย ซึ่งพวกเขาก็ชอบมาก”
เครกเป็นผู้จัดการที่มีส่วนร่วมกับงานมาก เขาจะนั่งไปกับรถบรรทุกคันหนึ่งในฟลีททุกๆ วันเพื่อเดินทางไปยังที่ต่างๆ ทั้งเมลเบิร์น กิปส์แลนด์ หรือมิลดูรา ในช่วงพักระหว่างทาง เขาก็ใช้เวลาพูดคุยกับลูกค้า กำหนดตารางเวลา และตรวจดูให้แน่ใจว่าเขาทำงานได้ตรงตามความคาดหมายของทุกคน
“จากมุมมองของผม การดูแลเอาใจใส่ลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก หากลูกค้าของเราต้องการสิ่งใดเร่งด่วน เราก็พร้อมจะปรับเปลี่ยนและวางตารางการทำงานใหม่เพื่อช่วยเหลือพวกเขา” เขากล่าว
“ผมพูดคุยกับลูกค้าทุกวัน ผมจึงรู้ดีว่าอะไรเป็นสิ่งที่จำเป็น และความยืดหยุ่นในการทำงานเป็นเรื่องจำเป็นมาก การได้นั่งไปในรถบรรทุกเองก็มีประโยชน์เช่นกัน เพราะนี่ช่วยให้ผมเข้าใจถึงสิ่งต่างๆ ที่คนขับของผมต้องเผชิญในการทำงานทุกๆ วัน รวมถึงได้ตรวจดูด้วยว่ารถบรรทุกทำงานเป็นอย่างไร ซึ่งช่วยให้ผมมองเห็นภาพว่าเราจะสามารทำอย่างไรได้บ้างเพื่อทำให้ทุกอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น”
จากมุมมองของผม การดูแลเอาใจใส่ลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก
ด้วยเส้นแบ่งระหว่างผลกำไรและการขาดทุนที่น้อยลงเรื่องๆ หนึ่งในขอบเขตที่เครกให้ความสนใจอย่างมากคือการประหยัดเชื้อเพลิง
“ผมให้ความสำคัญกับการประหยัดเชื้อเพลิงอย่างมาก” เครกกล่าว “และนั่นเป็นเหตุผลหนึ่งว่าทำไมผมจึงเลือกวอลโว่ เราได้รับคำแนะนำจากผู้ฝึกสอนคนขับของวอลโว่ และมันสร้างความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด การทำความเข้าใจเทคนิคการขับขี่ง่ายๆ เพียงสองสามข้อและการใช้เทคโนโลยีภายในรถบรรทุกอย่างเต็มประสิทธิภาพมอบผลที่ชัดเจนต่อการประหยัดเชื้อเพลิง ก่อนหน้านี้เราเคยทำค่าเฉลี่ยได้ประมาณ 1.8 กิโลเมตรต่อลิตร ตอนนี้เราทำได้ถึง 2.1”
นั่นเทียบได้กับเชื้อเพลิงที่ลดลงถึง 240 ลิตรต่อสัปดาห์สำหรับรถแต่ละคันทีเดียว ไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะเข้าใจว่าสิ่งนี้มอบผลประโยชน์โดยตรงให้กับ Fox Transport ได้อย่างไร “แค่เพียงคุณเรียนรู้วิธีการใช้งานระบบเกียร์ธรรมดาอัตโนมัติ I-Shift ให้เต็มศักยภาพ และพยายามใช้การแล่นไปตามแรงเฉื่อยแทนการเหยียบคันเร่งให้ได้มากที่สุด ก็ช่วยให้คนขับของเราประหยัดเชื้อเพลิงได้มากแล้ว” เครกกล่าว “และทั้งหมดนี้ไม่ส่งผลต่อระยะเวลาเดินทางเลยด้วยซ้ำ เราวางแผนจะทดลองกับชุดดิฟเฟอเรนเชียลต่อไปในรุ่น FH แล้วดูว่าเราจะสามารถทำให้รถอยู่ในเกียร์สูงสุดได้นานอีกหน่อยหรือไม่”
ด้วยความตระหนักดีว่าประสิทธิภาพการทำงานคือหนึ่งในไม่กี่ทางเลือกที่เหลืออยู่เพื่อช่วยเพิ่มผลกำไร เครกจึงพยายามหันไปพึ่งพาเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน
“ผมใช้ระบบ Volvo Dynafleet กับรถ FH สองคันของผม” เขากล่าว “ซึ่งช่วยมอบข้อมูลเชิงลึกที่ยอดเยี่ยมเกี่ยวกับประสิทธิภาพการทำงานด้านต่างๆ ทั้งหมดของตัวรถ ยกตัวอย่างเช่น Dynafleet ช่วยให้เราเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ก่อนหน้านี้เราแทบไม่ขับขี่โดยอาศัยแรงเฉื่อยเลย ทันทีที่เราตระหนักถึงเรื่องนี้ เราก็เริ่มมองหาโอกาสในการทำเช่นนั้น ตอนนี้เราขับขี่ด้วยแรงเฉื่อยคิดเป็นเวลาราว 10% ของเวลาเดินทางทั้งหมด สิ่งนี้เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยในการประหยัดเชื้อเพลิง
ในฐานะส่วนประกอบสำคัญของอุตสาหกรรมการเกษตรของวิคตอเรียและด้วยสถานการณ์ธุรกิจที่กำลังขยายตัว บริษัท Fox Transport จึงวางแผนที่จะอัพเกรดฟลีทรถบรรทุกของตนเองในราวช่วงปีถัดไป
Dynafleet ช่วยมอบข้อมูลเชิงลึกที่ยอดเยี่ยมเกี่ยวกับประสิทธิภาพการทำงานด้านต่างๆ ทั้งหมดของตัวรถ
“เราวางแผนจะปรับปรุงรถพ่วงของเรา และขายรถ FH เก่าของเราเพื่อเปลี่ยนเป็นรุ่น Euro5 แบบใหม่ รวมถึงอาจจะอัพเกรดเป็นรุ่น FE 340 แรงม้าเพื่อให้เราสามารถเพิ่มน้ำหนักบรรทุกของเราได้อีกหน่อยเพื่อใช้วิ่งในรัฐของเรา ไม่ว่าเราจะวิ่งเส้นทางรอบรัฐมากแค่ไหน เราก็ต้องไม่ลืมลูกค้าในพื้นที่ของเรา”
หลังจากเข้าทำงานในธุรกิจนี้เพียงหกปี ก็เป็นที่ชัดเจนว่าเครกนั้นมีความเข้าใจเพิ่มขึ้นอย่างมากถึงปัจจัยที่สร้างความสำเร็จให้กับบริษัทขนส่ง
“ทำสิ่งที่ถูกต้องต่อลูกค้า ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพที่สุดเท่าที่จะทำได้ สร้างความหลากหลายและใส่ใจในทุกรายละเอียด ทั้งหมดคือสิ่งที่ทำให้ผมประสบความสำเร็จ” เครกกล่าว “แต่ถึงแม้เราจะให้ความสนใจกับด้านเทคนิค เราก็ตระหนักดีว่าการมอบบริการที่น่าเชื่อถือให้กับลูกค้าคือสิ่งที่สำคัญที่สุด หากปราศจากสิ่งนี้ คุณก็จะไม่เหลืออะไรเลย เราสร้างชื่อเสียงอันดีงามของเราด้วยความสามารถในการมอบบริการที่ปรับให้เหมาะกับลูกค้าในระดับที่ธุรกิจขนาดครอบครัวสามารถทำได้
“ถ้าจะมีอะไรสักอย่างที่ผมเรียนรู้” เขากล่าวสรุป “นั่นก็คือ ในเกมธุรกิจแบบนี้ คุณต้องไม่หยุดเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ”
รถบรรทุก: FH Globetrotter XXL 6x4 B-Double, FH 6x4 B-Double, NH 6x4 B-Double, รถบรรทุก FM พร้อมหางพ่วงแบบกระบะเท และรถบรรทุก FE พร้อมบอดี้ Tite-liner รถบรรทุกมีอายุการใช้งานแตกต่างกัน ตั้งแต่ปี 2002 ถึง 2012
สภาพแวดล้อมการใช้งาน: ฟลีทรถบรรทุกของบริษัท Fox Transport ขนส่งสินค้าบนเส้นทางขรุขระหลายประเภท รวมถึง ทราย คอกสัตว์ และโคลน บ่อยครั้งที่พวกเขาต้องอาศัยล็อคดิฟเฟอเรนเชียลเพื่อการเดินทางเข้าและออก จากนั้นจึงวิ่งเส้นทางระยะไกลบนทางหลวง
การใช้งาน: รถบรรทุกทุกคันยกเว้น NH ใช้งานเกียร์ธรรมดาอัตโนมัติ I-Shift รถบรรทุก FH สองคันติดตั้งระบบ Dynafleet, ระบบควบคุมช่องทางเดินรถ และระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบปรับได้
การใช้เชื้อเพลิง: รถบรรทุก FH ขนาด 540 แรงม้าทำระยะทางเฉลี่ยได้ 2กม./ลิตร พร้อมชุดพ่วง B-Double และทำระยะทางเฉลี่ยได้ 2.5 กม./ลิตร เมื่อลากชุดพ่วงเพียงชุดเดียว รถบรรทุก FH ขนาด 520 แรงม้าทำระยะทางเฉลี่ยได้สูงสุด 1.9 กม./ลิตร